ในปัจจุบันวัสดุก่อ มีมากมายหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดมีเทคนิคในการทํางานแตกต่างกัน ในที่นี้จะกล่าวถึงวัสดุก่อที่มีใช้กันอยู่ทั่วไป มีดังนี้

วัสดุก่อ

อิฐมอญ / อิฐแดง ทําจากดินเหนียว ผสมกับแกลบหรือทราย นําไปเผาที่อุณหภูมิ 1200 องศา ปัจจุบันมีผลิตหลายแบบ มีทั้งผลิตโดยใช้เครื่องรีดและผลิตแบบเดิม โดยทั่วไปมีขนาด 4x16x6.5 ซม. จะใช้ 132 ก้อนต่อ ตร.ม. ปัจจุบันเพื่อความสะดวก จะขาย เป็นกระสอบปุ๋ย บรรจุกระสอบละ 90-100 ก้อน ถ้าหน่วยงานที่มีปริมาณการใช้มาก อาจสั่งเป็นพาเล็ต ทางภาคใต้มักใช้อิฐที่มีขนาดใหญ่กว่าทางภาคกลาง อิฐแดงเป็นวัสดุที่นิยมใช้มากที่สุด ปูนที่ใช้ก่อคือ ปูนซีเมนต์ทีพีไอเขียว, ทีพีไอ 199, ทีพีไอ 197, ทีพีไอ M300

อิฐบล็อค หรือ คอนกรีตบล็อค ทําจากปูนซีเมนต์ ผสมทราย หินฝุ่น หรือหินเกล็ด มีทั้งแบบหนา และแบบบาง อิฐบล็อคที่ก่อพื้นที่ 1 ตร.ม. ใช้ ประมาณ 13 ก้อน สามารถก่อได้รวดเร็วกว่าการก่อด้วยอิฐแดง เช่น ใช้ทํากําแพง รั้วบ้าน ใช้กั้นห้องในอาคารพานิชย์ ปูนที่ใช้ก่อ คือ ปูนซีเมนต์ทีพีไอเขียว, ทีพีไอ 199, ทีพีไอ 197, ทีพีไอ M300

บล็อคมวลเบา ปัจจุบันนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ หรือการก่อสร้างอาคารสํานักงาน คอนโดฯ การก่อใช้ปูนก่อ บล็อคมวลเบาโดยเฉพาะ เช่น ปูนทีพีไอ M310 สามารถแยกกรรมวิธีผลิตได้ 2 ระบบ คือ

- ระบบอบไอน้ำ AAC (Autoclave Aerated Concrete) ลักษณะเป็นสีขาว มีน้ำหนักเบา กันเสียง และความร้อนได้ดี มีขนาดที่ใช้กันอยู่ทั่วไป คือ 20x60x7.5 ซม. มีน้ำหนักประมาณ 7 กก. ต่อก้อน

- ระบบไม่อบไอน้ำ CLC (Cellular Lightweight Concrete) ส่วนใหญ่มีลักษณะ เป็นสีเทา สามารถกันเสียง และความร้อนได้เช่นกัน มีขนาด 20x60x7.5 ซม. มีทั้ง แบบผิวหน้าเรียบ และผิวหน้าลาย การก่อบล็อคมวลเบาทั้ง 2 ชนิด พื้นที่ 1 ตร.ม. ใช้บล็อคประมาณ 8.33 ก้อน

บล็อคดินซีเมนต์ เป็นบล็อคที่ทําจากส่วนผสม ปูน ซีเมนต์ ทราย และดินลูกรัง ผสมคลุกเคล้ากัน แล้วอัดขึ้นรูปเป็นก้อน บล็อคดินซีเมนต์จะมีการหล่อในรูปร่างที่มีรูร่อง และเดือย ทําให้การก่อประสานได้ทั้งแนวตั้ง และแนวนอนสามารถวางซ้อนกันได้หลายๆแถว รูบล็อคยังสามารถหยอดปูนทรายเชื่อมระหว่างบล็อคที่ซ้อนกัน ผนังก่อจะมีความแข็งแรงมากขึ้น ใช้ประดับตกแต่งสวน หรือกําแพงที่ ต้องการความสวยงามแบบธรรมชาติ

ขั้นตอนการก่ออิฐ

     ตรวจดูแนวก่อ ต้องมีการหา ดิ่ง-ฉาก ก่อน ถ้ามีเสาควรหาดิ่งกับเสาหรือขึงเอ็นหาแนวก่อ ป้องกันกําแพงล้มดิ่ง

ใช้ปูนทรายปรับระดับพื้นแนวก่อให้ได้ระดับ

การผสมปูนก่อ กรณีใช้ปูนซีเมนต์ผสมทั่วไป เช่น ปูนซีเมนต์ทีพีไอเขียว ผสมปูนฯ 1 ถุง กับทรายหยาบ 6 บุ้งกี๋ ให้มีความข้นพอประมาณ ไม่เหลวเหมือนปูนฉาบ กรณีเป็นอิฐแดงต้องราดน้ำที่อิฐให้ชุ่ม หรือมีความอิ่มตัว เพื่อไม่ให้อิฐดูดน้ำออกจากปูนก่ออย่างรวดเร็ว

- การก่อ ควรก่อแบบสลับแนวแบบครึ่งก้อน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับผนัง • ปูนก่อควรมีความหนาอย่างน้อย1.5 ชม. แต่ไม่ควรเกิน 2 ซม.

- บริเวณที่ก่ออิฐชนเสาควรมีเหล็กเส้นขนาด 6 มม. ความยาวประมาณ 30 ซม. เสียบอยู่ทุกๆ ระยะห่าง 40 ซม. ซึ่งปัจจุบันมักจะมีเหล็กเส้นดังกล่าว เสียบไว้กับเสาคอนกรีตอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่มีควร ใช้วิธีเจาะเสียบในภายหลัง ช่างเรียกว่า เหล็ก หนวดกุ้ง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้ผนังอิฐ

- ผนังก่อที่มีช่องวงกบหน้าต่าง หรือ ประตูควรมีเสาเอ็น และทับหลังคอนกรีต ช่วยใน การรับน้ำหนักของวงกบ หรือผนังที่มีความกว้างเกิน 3 เมตร ควรใส่เสาเอ็นทับหลังเช่นกัน

- การก่ออิฐใต้ท้องคาน ควรเว้นระยะ (ประมาณ 10 ซม.) ไว้ก่อน ไม่ควรก่อชนท้องคานภายในครั้งเดียว ปล่อยให้ปูนก่อทรุดตัวเต็มที่ประมาณ 7 วัน จึงมาก่อปิดในแนวทะแยงภายหลัง จากนั้นเว้นระยะประมาณ 1.5 ซม. แล้วอุดด้วยโฟมใต้คาน เพื่อป้องกันการทรุดตัวของแนวก่อและการทรุดตัวของคานกดทับผนัง

  การก่อบล็อคมวลเบา (ใช้ปูนก่อบล็อคมวลเบา ทีพีไอ M310)

     ก่อนการก่อชั้นแรก ควรใช้ปูนผสมทรายปรับระดับพื้นให้ได้ ระดับก่อน

ใช้แปรงสลัดน้ำขจัดคราบฝุ่นที่ ก้อนบล็อคในบริเวณที่จะใส่ปูนก่อ

ผสมปูนก่อกับน้ำ อัตราส่วน ประมาณ 2.6 : 1 ลิตร (โดยปริมาตร) ปูนก่อจะมีลักษณะเหลวเหมือนน้ำปูน

ใช้เกรียงก่อบล็อคมวลเบาตักปูนก่อ แล้วเทปูนก่อลงบนบล็อค รวมทั้งด้านข้างของบล็อคแต่ละก้อนด้วย

วางบล็อคให้สนิท จากนั้นเคาะด้วย ค้อนยาง แนวก่อของบล็อคมวลเบา จะมีความหนาเพียง 2-3 มม. ถ้าแนวก่อมี ความหนามาก จะทําให้แนวก่อไม่แข็งแรง (ปูนก่อ 1 ถุง สามารถก่อบล็อคขนาด 7.5x2.x60 ซม. ได้พื้นที่ประมาณ 30 ตร.ม.)